WelcoMe To ->Bei!zZ<- WonDerLand Cute Pixel Graphics from Freeglitters.com
Myspace Comments

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Halloween

ประวัติความเป็นมา วัน Halloween

ประเพณีนี้ได้รับการสืบทอดมาหลายชั่วอายุคน นับว่าเป็นวันสำคัญอันหนึ่งของคริสต์ศาสนา นิกายคาทอลิก ซึ่งพจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล แห่งราชบัณฑิตสถานได้จัดทำคำอธิบายถึงประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของ "ฮัลโลวีน" ไว้ดังนี้ ในคริสต์ศาสนา นิกายคาทอลิก Halloween เป็นคำภาษาอังกฤษ เพี้ยนมาจากคำ All Hallows Eve ซึ่งแปลว่าวันก่อนวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย โดยวิธีตัดต่อ Hallow + Eve = Halloween คำ Hallow เป็นคำแองโกลแซกซัน แปลว่าคำให้ศักดิ์สิทธิ์ ตรงกับภาษาเยอรมันว่า heiligen ในปัจจุบันนิยมใช้คำมาจากภาษาละตินว่า sanctify คำ Hallow ยังมีใช้ในบทสวดอธิษฐานเก่าๆ เช่น Hallowed be thy Name (ขอพระนามจงเป็นที่สักการะ) คำ Hallow ยังแปลว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ นักบุญ คำ All Hallowmas จึงแปลว่า วันสมโภชนักบุญทั้งหลายในปัจจุบันใช้คำว่า All Saints Day คู่กับ Christmas ซึ่งแปลว่า วันสมโภชพระคริสต์หรือคริสต์มาสนั่นเอง วันก่อนวันสมโภชคริสต์มาสมี Chrismas Eve ที่นิยมเรียกว่า คืน (ก่อน) คริสต์มาส วันก่อนวันสมโภชนักบุญทั้งหลายก็มี All Hallowmas Eve ซึ่งต่อมาย่อเป็น Halloween โดยมีงานรื่นเริงและพิธีกรรมทางศาสนาเช่นเดียวกับคืนคริสต์มาสชาวคาทอลิกพร้อมใจกันเลื่อนพิธีกรรมทางศาสนาไปหลังวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย และเรียกว่า วันวิญญาณในแดนชำระ (All Souls Day) เพื่อให้คู่กับวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย (All Saints Day)
ทำไม วันฮาโลวีน ถึงเป็นวันที่ 31 ตุลาตม

ประวัติความเป็นมาอีกฉบับหนึ่ง ให้คำอธิบายถึงที่มาที่ไปของวันนี้ได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว เป็นความเชื่อของชาวเซ็ลต์ (Celt) เป็นกลุ่มชนพื้นเมืองในประเทศอังกฤษ โดยเชื่อว่าทุกวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี จะเป็นวันที่ประตูนรกถูกเปิดขึ้นมา บรรจบกับมิติโลกมนุษย์กันอย่างพอดี ทำให้เหล่าวิญญาณพยายามหาทางเข้าสิงมนุษย์ ซึ่งวิธีการแก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้วิญญาณเข้าสิงคือ "การปลอมตัว" ทำตัวเป็นผีเสียเอง ด้วยการตกแต่งต่างๆ นานาให้ดูน่ากลัวที่สุด เทียนและระบบทำความร้อนก็จะถูกดับ เพื่อให้ร่างกายเกิดความหนาวเย็นเปรียบเสมือนร่างกายที่ไร้ซึ่งชีวิต ส่วนบ้านเรือนจะถูกตกแต่งให้ดูน่าสะพรึงกลัว และผู้คนต่างส่งเสียงเพื่อทำการขับไล่เหล่าวิญญาณชั่วร้ายอีกทีนึง ทั้งนี้ หลายคนต่างสงสัยว่าทำไมสัญลักษณ์ของวันฮัลโลวีน ถึงเป็นหัวฟักทองแกะสลักสีส้ม เจ้าฟักทองนั้นมีชื่อว่า Jack O Lanterns เป็นตำนานของชาวไอริช ที่เป็นนักมายากลขี้เมาและได้ทำข้อตกลงกับปีศาจตนหนึ่ง ในกรณีที่เขาเสียชีวิตแล้ว เขาขอเพียงแค่ไม่ไปทั้งสวรรค์หรือนรก เมื่อถึงคราวชีพจรดับปีศาจตนนั้นจึงมอบถ่านอันคุกรุ่นให้แก่ Jack เขาจึงนำไปใส่ไว้ในหัวผักกาดเพื่อคอยปัดเป่าความหนาวเย็น ต่อมาชาวไอรีชจึงแกะหัวผักกาด และนำถ่านมาใส่เช่นกันเพื่อเป็นสิริมงคลในการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายตลอดทั้งปี เมื่อกาลเวลาผ่านไปประเพณีดังกล่าวเริ่มแพร่หลายไปสู่ประเทศอเมริกา แต่หัวผักกาดเป็นสิ่งที่หายาก จึงนำลูกฟักทองมาแกะสลักแทน และนี่คือจุดเริ่มต้นของสัญลักษณ์สีส้ม และสีดำ ทั้งนี้ สีดำบ่งบอกถึงความมืดมิดช่วงเวลากลางคืน ส่วนสีส้มคือแสงสว่างที่ลุกโชติ เพื่อขับไล่ปีศาจนั่นเอง

ขอขอบคุณ http://www.educatepark.com/story/festival/halloween.php



วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เปิดเทอมแล้ว

ดีจ้าเพื่อนๆทุกๆคน
เปิดเทอมแล้วจ้า นี่ก็วันที่ 3 แล้วที่มาโรงเรียน ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เพื่อนๆที่น่ารัก คุณครูที่มีพระคุณ และการเรียนพิเศษเกือบทุกวัน เป็นอะไรที่เรียกว่า"น่าเบื่อ"ก็ไม่ได้นะคะ เพราะทุกอย่างที่เราต้องทำนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อตัวเราทั้งสิ้น
ก็ขอให้เพื่อนๆทุกๆคน สู้สู้!!! นะค่ะ บายจ้า ^^

วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เกร็ดน่ารู้ 5 วิธี ตั้งรับ "เพื่อน" ขี้อิจฉา

เข้างานพร้อมกัน ถ้าเราไปได้ดีก่อน ต้องมีคนคอยอิจฉาแน่นอน สะกิด มีวิธีตั้งรับ พวกเพื่อนๆขี้อิจฉามาฝากค่ะ

1. ยอมรับว่ามันเกิดขึ้นแล้ว : ขอให้ตั้งสติและยอมรับว่าเรื่องนี้มันได้เกิดขึ้นกับเราแล้ว เพื่อที่จะได้กลับมาทบทวนหาหนทางแก้ไขต่อไป
2. ปล่อยมันไป เมื่อทำใจได้แล้ว : เพราะถ้าหากเราคือเพชรแท้…อยู่ที่ไหนก็ยังคงเปล่งประกายวันยังค่ำ… ปล่อยให้พวกกรวด หิน ดิน ทราย ขี้อิจฉาทั้งหลายแพ้ภัยตัวเองกันไป แล้วกัน
3. เอาชนะด้วยความดี : หากอยากจะเอาชนะศัตรู ก็จงเอาชนะด้วยความดี แล้วสักวันหนึ่ง เขาอาจจะเสียใจที่เคยคิดอิจฉาคนดีๆ อย่างเรา
4. ทุ่มเทให้กับงาน : อย่ามัวแต่หมกมุ่นครุ่นคิดอยู่กับเรื่องจุกจิกพรรค์นี้ จนกลายเป็นอุปสรรคให้ต้องเสียงานเสียการ
5. ปรับความเข้าใจ : ลองหาช่วงเวลาเหมาะๆ เข้าไปนั่งจับเข่าคุยกัน เปิดอกเคลียร์ปัญหาด้วยการเริ่มต้นเจรจา อย่างสุภาพและต้องใจกว้างพอเมื่อถูก วิจ ารณ์จากคู่กรณี อย่าเพิ่งจี๊ดจนไฟออกหู ถ้าอยากปรับความเข้าใจกัน

วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เกมส์

การเล่นเกมส์ คือ การผ่อนคลายรูปแบบหนึ่ง เป็นการลับสมองไปในตัว ซึ่งผู้ใหญ่หลายคนอาจคิดว่า ไร้สาระ ซึ่งพวกเขาก็เล่นอยู่ ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว แต่ทุกคนย่อมรู้แก่ใจว่าตนได้ประโยชน์หรือโทษ การเล่นเกมส์สร้างประโยชน์หลายอย่าง แต่หากเล่นแบบไม่ใช้ความคิดและไม่พร้อมก็สร้าง โทษมหัณต์ประโยชน์ของการเล่นเกมส์
ประโยชน์ของการเล่นเกมส์
• ผ่อนคลาย
• ฝึกสมอง
• ฝึกการเข้าสังคม
• บริหารนิ้วมือ ข้อมือ เคลื่อนไหว

โทษของการเล่นเกมส์
• เกิดการปวดตา ปวดคอ นิ้วเกร็ง ถ้าเล่นนานเกินควร
• หากเล่นไม่ถูกเวลาอาจบั้นทอนตนเอง เช่น พรุ่งนี้สอบยังจะไปนั่งเล่นเกมส์(เล่นได้ในกรณี ผ่อนคลาย)
• เล่นแล้วมักเกิดอาการติดลม
• เล่นจนควมคุมตัวเองไม่อยู่
• อินกับมันมากเกิน

การเล่นเกมส์ควรจะมีขอบเขต ก่อนเล่นควรตั้งคำถามว่า พร้อมที่จะเนจริง รึเปล่า ห้ามหลอกตัวเอง ถ้าไม่อยากจริงๆ อย่าไปเล่นเกิดแต่โทษทั้งนั้น ตั้งเวลาก่อนเล่นว่าจะเล่นนานเท่าไหร่ และซื่อสัตย์ในตนเอง ห้ามคิดว่าจะ แพ้ ชนะ เพราะอาจทำให้เกิดความคิดแก้มือ

เล่นเกมส์อย่างไรให้มีคุณค่า
• เล่นอย่างมีสติ ควรเล่นแบบใช้สมองไม่ใช่ใช้อารมณ์เจอไม่ถูกใจก็ใส่อารมณ์เข้าไปเต็มที่ เห็นได้บ่อยๆ ในดอทเอนี่แหละ
• เล่นอย่างใช้สมอง ใช้สมองก่อนตัดสินใจทำอะไรๆ ลง ไปไม่ว่าจะพิมพ์แม้แต่กดตัวเดินต้องใช้ สมองคิดให้รอบคอบ คิดไตร่ตรองก่อนทำทุกอย่างกดเข้าเกมส์คุณยังควรคิดเลย
• เล่นอย่างมีสมาธิ ในเมื่อเราเล่นแล้วควรใส่ใจกับมัน หากเราไม่มีอารมณ์เล่น ก็ไม่ควรจะเล่นมัน มีแต่จะเสียกับเสีย
• เล่นอย่างถูกเวลา เล่นในเวลาที่ควร โดยปกติผู้คนมักจะเกิดอาการที่เรียกว่า อยาก แต่ความอยาก ควรสร้างระยะแต่ตอบสนองความต้องการ เมื่อเริ่มเกิดความรู้สึกเซ็ง ให้เลิกทันที เวลาที่เล่น ควรเหมาะสม ไม่ควรเกิน 3 ชม. ติดต่อกัน ตอนเข้าดอทเอเคยอ่านไหม เวลาสอบหรือมีธุระให้ ลืมมันไปเลย จะทำให้เรารู้สึกดีกว่า
• เล่นแล้วต้องไม่เครียด ขึ้นชื่อว่าเกมสื เราควรเล่นอยากผ่อนคลาย หากเราซีเรียสแล้วการเล่นครั้งนี้ จะสร้างโทษมากมาย อารมณ์คุณอาจค้าง ไปทั้งวัน อาจทำสิ่งต่างๆในวันนี้ไม่ดีเลย ยังทำให้รู้สึกหงุดหงิน โมโห ซึ่งนั้น คือโทษทั้งสิ้น
• เล่นแล้วตัวเองต้องรู้สึกสบายใจ ควรตั้งท่าทางในการเล่นที่ถูกต้อง เพระาทำให้รู้สึกเมื่อยล้า และไม่มีประสิทธิภาพที่ ดีพอในการเล่น จะรู้ได้อย่างไรว่าเราติดเกมส์รึเปล่า อาการทั่วไปของคนติดเกมส์ คือ
• เวลาเห็นคนอื่นเล่นมักอยากบ้าง
• มักมีเรื่องเกมส์แวบมาในหัวตอนทำอะไรต่อมิอะไรอยู่
• เกินอาการกระสับกระส่ายหากไม่ได้เล่น
• หากมีเวลาเล่นมักจะเล่นอย่างไม่รีรอ
• เมื่อมีอะไรมาขัดขณะเล่นอารมณ์จะเสียมาก จากข้างต้นหากคุณมีอาการดังกล่าว เกิน 2ข้อนั้นแหละคุณโดนมันเล่นแล้ว

ปัจจัยการติดเกมส์
1. ร้านเกมส์มีอิทธิพลมากเพระาเด็กๆส่วนใกญ่มักใช้เวลากับมัน จนถูกมองเป็นการมั่วสุม
2. พ่อแม่ ผู้ปกครอง ไม่มีการอบรมณ์สั่งสอนที่ดีจนถูกกลายเป็นเด็กติดเกมสืไป
3. ตัวคนนั้นๆเอง ไม่มีความสามารถในการคุมตัวเองที่ดีพอ
4. ผู้ให้บริการ มักใช้เด็กเป็นช่องทางหารายได้
5. คอนเซปของเด็กไทย ของฟรี มีไว้ใช้

การแก้อาการติดเกมส์
• หาเวลาทำอย่างอื่นเมื่อเกิดอาการอยาก เช่น อ่านหนังสือ ดูทีวี ฟังเพลง เข้าเว็บ ที่ไม่มีเนื้อหาด้านเกมส์
• ควรลดเวลาเล่นลงเรื่อยๆ ไม่ใช่ตัดไปเลย เพราะนั้นจะไม่ทำให้หายขาด
• หากมีความคิดเรื่องเกมส์เข้ามาให้หาคนคุยด้วย ระบายสิ่งที่คิดได้ออกไป หากไม่มี โต๊ะ เก้าอี้ หมาข้างบ้าน พร้อมรับฟังคุณ จะทำให้คุณสบายใจขึ้น
• เลี่ยงเลี่ยงร้านเกมส์ยิ่งไม่เห็นมันยิ่งดี
• คิดถึงหัวอกพ่อแม่ ที่เราเอาเงินที่ท่าหามาด้วยความเหนื่อยยาก ไปทิ้งกับเกมส์

คำถามท้ายรายการ ตอบซิคะ มันเล่นคุณ หรือ คุณเล่นมัน วันนี้คุณลดมันลงหรือยัง มันทำไรให้คุณบ้าง และคุณทำอะไรให้มัน
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก
http://gamerteam.igetweb.com/index.php?mo=3&art=180705

วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2551

วิธีคลายเครียดตามเดือนเกิด

มกราคม
เธอเป็นคนที่เห็นทุกสิ่งในชีวิตเป็นเรื่องจริงจัง เพราะชอบสะสมความเครียดมากไปหน่อย เอาเป็นว่า... เจียดเวลารีแลกซ์ด้วยการเล่นกีฬาโปรดดูบ้าง หรือถ้าไม่ว่างจริงๆ การอาบน้ำด้วยครีมสมุนไพรก็พอจะช่วยให้เธอผ่อนคลายได้เหมือนกัน
กุมภาพันธ์

เธอเป็นคนที่เครียดได้ง่ายมากๆ ถึงเธอจะไม่โวยวายแต่ก็เก็บความโกรธไว้ การผ่อนคลายที่เหมาะกับเธอคือ การได้อยู่คนเดียวเงียบๆ หรือทำกิจกรรมส่วนตัว หรือไม่ก็เล่นอินเตอร์เน็ตท่องโลกกว้าง
มีนาคม
เธอเป็นคนที่อ่อนไหว และชอบยกหัวใจให้อยู่ในกำมือของคนอื่น การคาดหวังมากเกินไปอาจทำให้เสียจิตคิดแล้วก็เครียด การผ่อนคลายของเธออาจจะเป็นการเล่นดนตรี หรือไม่ก็วาดภาพ แต่ถ้ามีเวลาสั้นๆ ก็แค่เอาตัวลงไปจุ่มในน้ำ แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว
เมษายน
เธอเป็นคนที่มีสมาธิในการทำงานมาก จนบางครั้งลืมขยับเขยื้อนร่างกาย ทำให้อาการเมื่อยเข้าครอบงำ วิธีผ่อนคลายของเธอคือ การได้ออกแรงมากๆ กับกีฬาผาดโผน หรือไปเล่นเครื่องเล่นเสี่ยงตายในสวนสนุก มันจะทำให้สมองเธอโล่ง
พฤษภาคม
เธอเป็นคนที่มีสารเครียดอยู่ในร่างกายพอสมควร รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง หัวใจที่เพิ่มไม่ได้ทำให้เป็นคนหลายใจ แต่ทำให้เธอเข้ากับคนอื่นได้มากขึ้น วิธีผ่อนคลายของเธอคือ การได้เดินดูของสวยๆ งามๆ ก็ทำให้รีแลกซ์แล้วค่ะ
มิถุนายน
เธอเป็นคนชอบพบปะผู้คน ดังนั้นถ้าเธอรู้สึกเครียดไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร meeting กับเพื่อนน่าจะเป็นวิธีผ่อนคลายที่เธอทำได้ดีที่สุด หรือไม่ก็การช้อปปิ้ง
กรกฎาคม
สิ่งที่ทำให้เธอเครียดที่สุดก็คือ เรื่องการเดินทาง หรือต้องอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย เพราะเธอเป็นคนเหนื่อยง่ายแถมถ้าเหนื่อยใจยิ่งแย่ไหญ่ การผ่อนคลายของเธอ น่าจะเป็นการได้เล่นกับสัตว์เลี้ยง ปลูกต้นไม้ หรือไม่ก็หลับยาวไปเลยก็ได้นะ
สิงหาคม
เรื่องที่ทำให้เธอเครียดมากที่สุดก็คือ ความพ่ายแพ้ เพราะเธอไม่ชอบแพ้ใครแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ วิธีผ่อนคลายของเธอคือการได้ดูหนัง ฟังเพลง ช้อป ดื่ม กิน เที่ยว แค่นั้นมันก็ทำให้เธอหายเครียดไปเยอะแล้ว
กันยายน
การได้นอนเกลือกกลิ้งอยู่กับคนรัก มันก็เป็นการผ่อนคลายที่มีความสุขของเธอ
ตุลาคม
เธอชอบอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย สิ่งที่ทำให้เธอเครียดได้ก็คือความเหงา แค่ได้วุ่นวายกับเสื้อผ้า แต่งหน้า ทำผม แบบโน้นแบบนี้ ก็เป็นการผ่อนคลายสำหรับเธอ
พฤศจิกายน
เธอเป็นคนที่เกิดอาการเครียดได้บ่อยเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องความรัก การผ่อนคลายขอเธอน่าจะเป็นการอ่านหนังสือนิยายรัก กุ๊กกิ๊ก ก็ช่วยเธอได้เหมือนกันนะ
ธันวาคม
ชอบอยู่นิ่ง ออกแนวไฮเปอร์หน่อยๆ การผ่อนคลายของเธอคือการได้ไปเที่ยวในที่ต่างๆ ไม่งั้นก็อ่านหนังสือแบบไม่จำกัดแนว ก็ช่วยให้สมองเธอปลอดโปร่งได้นะ สิ่งที่ทำให้เธอเครียดก็คือ การที่ต้องทนอยู่กันอะไรนานๆ เพราะเธอเป็นคนไม่เห็นทุกสิ่งในชีวิตเป็นเรื่องจริงจัง เพราะชอบสะสมความเครียดมาก

30 วิธีสร้างความสุขง่ายๆ

บางครั้ง ความสุขก็ไม่จำเป็นต้องไขว่คว้ามา บางครั้ง มันอาจจะจะอยู่ใกล้ๆตัวคุณก็ได้ ลองอ่านดูเผื่อคุณจะพบความสุขในไม่ช้านี้...
1. นึกไว้เสมอว่า การโกรธ 1 นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับคุณ 3 ชั่วโมง
2. ถ้ายิ้มให้กับคนที่อยู่ในกระจกรับรองว่าเขาต้องยิ้มตอบกลับมาทุกครั้ง
3. ลองปลูกต้นไม้เองซักต้นการเติบโตของมันจะบ่งบอกตัวตนของคุณได้
4. หลับตานิ่งๆสัก 3 นาที เมื่อรู้สึกว่าอะไรที่อยู่ตรงหน้ามันช่างยากเย็นเหลือเกิน
5. ระหว่างแปรงฟันฮัมเพลงไปด้วยจนจบ จะทำให้ฟันสะอาดขึ้นเป็น 2 เท่า
6. เคี้ยวข้าวแต่ละคำให้ช้าลงจากรสชาติที่ธรรมดา ก็จะอร่อยขึ้นเยอะเลย
7. ไม่ว่าผมจะสั้นหรือยาวแค่ไหนก็ต้องการให้หวีอย่างทะนุถนอมเหมือนกันหมด
8. การขึ้น-ลงบันไดสูงๆแบบไม่ให้เมื่อย คือ การไม่นับว่ากำลังยืนอยู่บันไดขั้นที่เท่าไร
9. คนตาบอดจะเห็นว่าคุณสวยมากๆทันทีที่คุณถามเขาว่า ช่วยพาข้ามถนนไหมคะ
10. เมื่อจะหยิบเศษเงินให้ขอทานไม่จำเป็นต้องนับก่อนที่จะหย่อนลงกระป๋องหรอก
11. ควรหัดพูดคำว่า ไม่เป็นไร ให้เคยปากมากกว่าจะพูดคำว่า จะเอายังไง
12. ลองตั้งนาฬิกาให้เร็วขึ้น 15 นาที รับรองว่าจะไม่ไปสายเหมือนเมื่อก่อน
13. สัตว์เลี้ยงที่บ้านเก็บความลับเก่ง ดังนั้น เรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้ จึงเล่าให้มันฟังได้
14. อาหารที่จะไม่ชอบกินตอนเด็กลองตักเข้าปากอีกสักที เผื่อจะกลายเป็นอาหารจานโปรด
15. เขียนชื่อคนที่คุณเกลียดใส่กระดาษ แล้วฉีกทิ้ง (หรือแปะไว้ใต้รองเท้าแล้วใส่รองเท้านั้นไปเดินเล่นสักพัก)ความเกลียดจะเบาบางลงเรื่อยๆ
16. ปล่อยน้ำตาให้ไหลโดยไม่ต้องเช็ด เมื่อน้ำตาแห้ง จะดูแทบไม่ออกเลยว่าเพิ่งร้องไห้
17. ตุ๊กตาและของเล่นเก่าๆจะทำให้เรายิ้มออกเสมอเมื่อได้เห็นมันอีกครั้ง
18. ก่อนซื้ออะไรก็ตาม ต้องคิดหาประโยชน์ของมัน ทำให้ได้ 3 ข้อก่อน
19. ถึงเสื้อและกางเกงในตู้จะมีอยู่น้อย แต่ถ้าใสสลับกันไปเรื่อยๆก็จะดูเหมือนมีเยอะขึ้น
20. ซาลาเปา 1 ลูก กินได้ 2 คน ลูกชิ้นปิ้ง 1 ไม้ กินได้ 4 คน ถ้าคุณคิดจะแบ่งเท่านั้นเอง
21. เลือกให้ของขวัญคนที่ไม่เคยได้ ดีกว่าให้คนที่ได้เยอะ จนจำชื่อคนให้ได้ไม่หมด
22. ในวันที่รู้สึกเศร้าหรือเหงาๆเดินไปซื้อดอกไม้ให้ตัวเองซักดอกก็จะดีขึ้น
23. แอบรักใครสักคน...ยังไงก็ยังดีกว่าไม่เคยรู้ว่าความรู้สึกรักมันเป็นอย่างไร
24. ถึงจะไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความจะแต่งตัว สวยๆ หล่อๆ ไม่ได้นี่
25. ฝึกโรแมนติกง่ายๆคนเดียวบ้าง ด้วยการนั่งนับดาวให้ครบ 100 ดวงก่อนนอน
26. ถ้าคุณเช็ดกระจกที่ขุ่นมัวที่สุดจนสดใสได้ ทำไมถึงจะเรียนดีกว่านี้ไม่ได้
27. พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบ มันอาจจะไม่สนุก แต่ก็มีประโยชน์แฝงอยู่
28. วันที่ตื่นเช้าให้บิดขี้เกียจให้นานที่สุด เท่าที่จะนานได้ ถ้าขี้เกียจออกกำลังกาย
29. แค่เอาข้าวที่กินไม่หมดไปให้หมาที่เดินผ่าน ก็เป็นการทำบุญที่ไม่ต้องลงทุนแล้ว
30. ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นในบ้าน แม่จะได้มีค่าขนมให้คุณเพิ่มขึ้นอีกหลายบาท
ขอขอบคุณบทความดีๆแบบนี้ จากhttp://variety.teenee.com/foodforbrain/182.html

วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2551

อย่าเพิ่งบอกว่ารัก

ชอบเพลงนี้ค่ะ เพราะดี

ชื่อเพลง / Song : อย่าเพิ่งบอกว่ารัก
อัลบั้ม / Album :
BEAM
ศิลปิน / Artist :
บีม กวี
ค่ายเพลง / Label : RS

ดีใจ ที่เธอเอ่ยคำว่ารักให้กัน
เหมือนฝันที่ได้ยินคำนี้
แต่อยากให้ลองทบทวนดูสักที
ใช่ความต้องการแธอแน่หรือ

ไม่ใช่แค่เผลอใจใช่ไหม
ก็เธอเพิ่งเลิกลาเขาไป เช็คหัวใจดีๆ
อย่าให้คำว่ารักคำนี้มันทำร้ายเรา

อย่าเพิ่งบอกว่ารัก ถ้าเธอยังไม่แน่ใจ
อาจเป็นความเหงา ความใกล้ชิด ทำเธอหวั่นไหว
ไม่เป็นไรอยากให้รู้ ฉันไม่เคยหวังอะไร
ได้ดูแลเธอเรื่อยไปก็พอ

ค่อยบอกคำว่ารัก เมื่อตอนที่เธอแน่ใจ
บอกกันวันนั้น คงจะซึ้งและไม่สายไป
ฉันจะรอเธอตรงนี้ทุกนาทีไม่ไปไหน
นกว่าเธอจะรู้สึกว่าฉันใช่จริงๆ ค่อยรักกัน

บางที มันอาจเป็นเพียงแค่ชั่ววูบหนึ่ง
ซึ่งเธอต้องการใครแทนที่เขา แค่วันที่หัวใจรู้สึกเหงา
ใช่ความรักจริงๆ หรือเปล่า เช็คหัวใจดีๆ
อย่าให้คำว่ารักคำนี้มันทำร้ายเรา

อย่าเพิ่งบอกว่ารัก ถ้าเธอยังไม่แน่ใจ
อาจเป็นความเหงา ความใกล้ชิด ทำเธอหวั่นไหว
ไม่เป็นไรอยากให้รู้ ฉันไม่เคยหวังอะไร
ได้ดูแลเธอเรื่อยไปก็พอ

ค่อยบอกคำว่ารัก เมื่อตอนที่เธอแน่ใจ
บอกกันวันนั้น คงจะซึ้งและไม่สายไป
ฉันจะรอเธอตรงนี้ทุกนาทีไม่ไปไหน
จนกว่าเธอจะรู้สึกว่าฉันใช่จริงๆ ค่อยรักกัน

แม้ต้องเป็นฐานะอะไร กับฉันมันไม่สำคัญ
แล้วแต่เธอจะให้เป็น ขอบคุณในคำดีๆ ที่ให้ฉัน
(ค่อยบอกคำว่ารัก เมื่อตอนที่เธอแน่ใจ)

บอกกันวันนั้นคงจะซึ้งและไม่สายไป
ฉันจะรอเธอตรงนี้ ทุกนาทีไม่ไปไหน
ฉันจะรอเธอคนนี้
แค่เธอยืนอยู่ตรงนี้แล้วรู้สึกดีในหัวใจ
ก็มากพอแล้วไม่รู้เท่าไหร่ แค่ได้ใกล้เธอ

วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2551

14 อาการบ่งบอกว่าคุณกำลังมีความรัก

1. อยากเห็นหน้าไม่งั้นบ้าตาย
2. คิดถึง ...ตั้งแต่ตื่นนอน ...จนถึงเข้านอน ...หรือไม่ก็ฝันมันซะเลย ไม่เว้นแม้แต่เข้าห้องน้ำ

3. เห็นหน้าเขาคนนั้นทีไร หัวใจก็เต้นโครมครามโดยไม่มีเหตุผล
4. แอบมองเขาทั้งระยะใกล้และระยะไกล ไม่ให้เขารู้ตัว ไม่กล้าสบตา เดี๋ยวเขารู้
5. เกาะติดสถานการณ์ เห็นเขาอยู่ไหน พยายามพาตัวเข้าไปใกล้ใกล้
6. อยากรู้จัก อยากพูดคุย อยากได้ยินเสียง อยากยิ้มให้
7. โรแมนติกขึ้นมาหน้าตาเฉย มีการพับดาวใส่ขวด เขียนกลอน เพ้อรำพึงรำพัน
8. เห็นเขาเดินกับใคร คุยกับใคร หัวใจปั่นป่วนจวนจะระเบิด
9. หวั่นไหวไปกับเสียงเพลง และมิวสิควีดีโอ แอบยิ้มหวานคนเดียว
10. ห่วงใยความสวยของตัวเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
11. สืบเสาะแสวงหาข้อมูลส่วนตัวของเขา เกิดวันไหน เรียนห้องไหน บ้านอยู่ไหน เบอร์โทรอะไรหาให้วุ่น

12. อยากรู้ว่าเขาชอบอะไร ดูหนังฟังเพลงแบบไหน อะไรนะที่เป็นของโปรด
13. เริ่มคิดหนักว่าเขามีใครเป็นหวานใจหรือยัง แล้วอย่างเรานี่สเป็กเขารึเปล่าเนี่ย เริ่มจินตนาการไปต่างต่างนานา
14. เริ่มบนบานศาลกล่าว ผ่านดวงดาว ลมหนาว ดวงจันทร์ ยันดวงอาทิตย์ ช่วยให้สมหวังที

วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ความลับ

วันนี้มีเนื้อเพลง ความลับ ของพอส(Pause)มาฝากค่ะ เพราะชอบเพลงนี้มากๆ
ชื่อเพลง :: ความลับ
ศิลปิน :: พอส
อัลบั้ม :: Rewind

มอง มองเธอมาแสนนาน
ฉันไม่กล้า ต้องคอยหลบตาเธอเสมอ
กลัวว่าวันหนึ่งถ้าเธอรู้ว่าฉัน...
ปิดบังความจริงอะไรเอาไว้

* ความลับที่ฉันซ่อนไว้ ไม่เคยบอกใคร จะอดใจไม่ไหว
** ยิ่งฉันใกล้เธอเท่าไหร่ ยิ่งอยากจะเผยใจ
เมื่อสบสายตา ก็ยิ่งหวั่นไหว
มันยากเหลือเกิน จะเก็บ ซ่อนความรักเอาไว้
และความลับในใจของเธอ มีฉันอยู่บ้างไหม
โปรดบอกความในใจ ให้ฉันรู้ทีนะเธอ

เก็บเอาคำพูดของเธอ มาคิดมาก
แอบคิดไปเองอยู่อย่างนี้
ก็เธอ เธอช่างดีแสนดี คำว่ารักเธอ
จะต้องเก็บไว้อีกนานแค่ไหน

( ซ้ำ * , ** )
( ซ้ำ * , ** , ** )